ดัชนีความยืดหยุ่นทางการเงินของ Sun Life Asia ได้เผยให้เห็นว่าเจนซีมีความมั่นคงทา...

ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์

พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์ x ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์

ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - ดัชนีความยืดหยุ่นทางการเงินของ Sun Life Asia ได้เผยให้เห็นว่าเจนซีมีความมั่นคงทางการเงินน้อยที่สุด ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อได้บังคับให้เปลี่ยนมุมมองไปเป็นการคิดในระยะสั้น

ชอบข่าวนี้?
  • ผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ 69% รู้สึกมีความมั่นคงทางการเงิน เมื่อเทียบกับกลุ่มเจนซีที่มีเพียง 57% เท่านั้น
  • ผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มเจนซีมากกว่าหนึ่งในสี่ (28%) ไม่ได้ขอความช่วยเหลือในการตัดสินใจทางการเงิน
  • ผู้คน 92% รู้สึกถึงแรงกดดันจากเงินเฟ้อ และ 44% เผชิญกับผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสามารถในการชำระค่าใช้จ่าย
  • ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งหนึ่ง (54%) ไม่มีแผนการเงินล่วงหน้าที่ยาวนานกว่า 12 เดือน และมีเพียง 8% เท่านั้นที่วางแผนล่วงหน้าไว้มากกว่า 10 ปี

ฮ่องกง, 26 มิถุนายน 2568 /PRNewswire/ -- Sun Life Asia ได้เปิดตัว Sun Life Asia Financial Resilience Index: Balancing today's needs and tomorrow's goals ฉบับที่สองในวันนี้ พร้อมนำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการบริหารการเงินส่วนบุคคลในทั่วทั้งภูมิภาคท่ามกลางภูมิทัศน์ทางการเงินที่ผันผวนในปัจจุบัน ผลการศึกษาเผยให้เห็นว่า แม้มุมมองโดยรวมเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินจะดีขึ้นเล็กน้อย แต่ความเป็นจริงนั้นกลับน่าหดหู่ใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มเจนซีที่มีความมั่นคงทางการเงิน และมีความยืดหยุ่นน้อยที่สุดจากการสำรวจ ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มเบบี้บูมเมอร์อย่างสิ้นเชิงที่มีผู้ที่รู้สึกมั่นคงทางการเงินมากถึง 69%

Gen Z emerges as the least financially secure and resilient generation
Gen Z emerges as the least financially secure and resilient generation

การศึกษาได้สำรวจผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 6,000 คนทั่วฮ่องกง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม พร้อมเน้นย้ำถึงแนวโน้มในการวางแผนทางการเงิน ความรู้ การยอมรับความเสี่ยง และบทบาทของคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการสร้างความยืดหยุ่นในระยะยาว

เจนซีเผชิญกับเส้นทางสู่ความมั่นคงทางการเงินที่ยากลำบากที่สุด

ผู้คนรุ่นเจนซีตามหลังคนรุ่นอื่นๆ ทั้งในด้านความมั่นใจและความพร้อม โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามรุ่นเจนซีเพียง 57% เท่านั้นที่รู้สึกมีความมั่นคงทางการเงิน ซึ่งต่ำกว่ากลุ่มเบบี้บูมเบอร์ที่มีผู้ที่รู้สึกมั่นคงทางการเงินมากถึง 69% และนับว่าเป็นกลุ่มคนที่มีความมั่นคงทางการเงินมากที่สุด ตามด้วยกลุ่มมิลเลนเนียลที่ 66% แม้ว่าพวกเขาจะยังมีเวลาอีกมาก แต่แนวทางการลงทุนของพวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงความลังเลมากกว่าความทะเยอทะยาน โดย 59% ระบุว่า พวกเขาเป็นนักลงทุนแบบอนุรักษนิยม ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการขาดความตระหนักถึงวิธีการรักษาสมดุลระหว่างความเสี่ยง และผลตอบแทนในระยะยาว

อีกทั้งเจนซียังมีแนวคิดในการตัดสินใจทางการเงินที่เป็นเอกเทศที่สุด เมื่อเทียบกับคนรุ่นอื่นๆ เจนซีมากกว่าหนึ่งในสี่ (28%) ไม่เคยขอคำแนะนำใดๆ เลย แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนรุ่นที่ต้องการคำแนะนำ และการสนับสนุนอย่างมีโครงสร้างมากที่สุดก็ตาม ทว่าที่น่าสังเกตคือ เจนซีมีแนวโน้มที่จะปรึกษาเครื่องมือ AI มากที่สุด (19%) เพื่อขอคำแนะนำด้านการเงิน มากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ (กลุ่มมินเลนเนียล 18% เจนเอ็กซ์ 10% เบบี้บูมเมอร์ 11%)

David Broom ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้าและการจัดจำหน่ายที่ Sun Life Asia กล่าวว่า "เจนซียังมีเวลาอีกมาก แต่แทนที่พวกเขาจะมีความมั่นใจ เรากลับเห็นความลังเลและกังวลใจ ในขณะที่พวกเขาเติบโตขึ้นในโลกที่เต็มไปด้วยความผันผวนทางเศรษฐกิจ และค่าครองชีพที่สูงขึ้น การเสริมสร้างความรู้ทางการเงิน และเชื่อมโยงพวกเขากับแหล่งคำแนะนำที่น่าเชื่อถือจะมอบเครื่องมือให้พวกเขาสร้างอนาคตที่มั่นคงขึ้นได้"

การให้ความสำคัญกับระยะสั้น แทนความมั่งคั่งระยะยาว

หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นสูงมาหลายปี ผู้คนมากมายต้องดิ้นรนเพื่อจัดการค่าใช้จ่ายทั้งในประจำวัน และในระยะยาว ผู้คน 92% รู้สึกถึงแรงกดดันจากราคาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ 44% เผชิญกับผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสามารถในการชำระค่าใช้จ่ายรายเดือน

ในขณะที่ค่าครองชีพที่สูงขึ้นส่งผลให้งบประมาณครัวเรือนลดลง ผู้คนมากมายจึงได้ให้ความสำคัญไปที่การตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบันของพวกเขามากกว่าการวางแผนสำหรับเป้าหมายในอนาคต การจัดการค่าใช้จ่ายประจำวันถือเป็นสิ่งสำคัญทางการเงินอันดับต้นๆ สำหรับผู้ตอบแบบสอบถาม 60% โดยเพิ่มขึ้นจาก 54% ในปีที่ผ่านมา ในขณะที่การวางแผนเกษียณอายุลดลงจากอันดับสองมาอยู่ที่อันดับหกในปีนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการวางแผนงบประมาณในปัจจุบันมีความสำคัญมากกว่าเป้าหมายในระยะยาว

การสร้างเงินออมฉุกเฉินในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ผันผวนก็มีลำดับความสำคัญเพิ่มขึ้นเช่นกัน และได้กลายเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดอันดับสอง (42%) ในปัจจุบัน

การบรรลุความมั่นคงทางการเงินมีความท้าทายมากขึ้น อันเนื่องมาจากการขาดการวางแผนในระยะยาว แม้ว่าความพร้อมทางการเงินระยะยาวจะมีการพัฒนาขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำจนน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งหนึ่ง (54%) ไม่มีแผนการเงินล่วงหน้าที่ยาวนานกว่า 12 เดือน และมีเพียง 8% เท่านั้นที่วางแผนล่วงหน้าไว้มากกว่า 10 ปี ซึ่งเผยให้เห็นช่องว่างขนาดใหญ่เกี่ยวกับการมองการณ์ไกล และความยืดหยุ่นในด้านการเงิน

การเชื่อมช่องว่างความยืดหยุ่น

ผลการสำรวจยังเผยให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างผู้ที่มีความมั่นคงทางการเงินสูง และผู้ที่ไม่มีความมั่นคงทางการเงิน

บุคคลที่มีความยืดหยุ่นสูงได้รับการจัดหมวดหมู่ในแบบสำรวจนี้ให้เป็นผู้ที่มีความสามารถสูงในการรับมือกับภาวะช็อกทางการเงิน และสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินของพวกเขาได้ ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญไปที่การสร้างเงินออมในกรณีฉุกเฉิน (43%) และให้การศึกษากับตัวเองหรือบุตรหลาน (39%) ในทางกลับกัน บุคคลที่มีความยืดหยุ่นต่ำที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ในแบบสำรวจนี้ให้เป็นผู้ที่มีขีดความสามารถจำกัดในการต้านทานภาวะช็อกทางการเงิน และมีความมั่นใจในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้จำกัด ซึ่งจะให้ความสำคัญกับการชำระหนี้ (42%) หรือสร้างเงินออมฉุกเฉินมากกว่า (40%)

ผู้ที่มีความยืดหยุ่นสูงยังมีความมั่นใจทางการเงินก็ยังสูงเช่นกัน โดย 83% มั่นใจว่า พวกเขาสามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันในระยะสั้นได้ และ 82% เชื่อว่าจะบรรลุเป้าหมายการออมในระยะยาวได้ ผู้คนเกือบครึ่งหนึ่ง (45%) กล่าวว่าพวกเขาสามารถช่วยเหลือตัวเองทางด้านการเงินได้นานกว่าหกเดือนในกรณีที่เกิดวิกฤต กลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะแสวงหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมากกว่า โดย 40% ทำงานร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงิน หลายๆ คนกำลังดำเนินการเชิงรุกเพื่อปรับปรุงสถานการณ์ทางการเงินของตนเอง โดย 49% กำลังศึกษาเรื่องการเงินส่วนบุคคล และ 45% กำลังลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น

ผู้ที่มีความยืดหยุ่นต่ำเพียง 25% เท่านั้นที่รู้สึกว่าตนสามารถจัดการการเงินระยะสั้นได้ และมีเพียง 13% เท่านั้นที่คาดหวังที่จะบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าตกใจที่ 89% บอกว่าพวกเขาไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้นานกว่า 6 เดือน หากต้องตกงานหรือเจ็บป่วยร้ายแรง และมีเพียง 27% เท่านั้นที่ได้เข้าปรึกษากับที่ปรึกษามืออาชีพ โดยส่วนใหญ่พึ่งพาเครือข่ายที่ไม่เป็นทางการ หรือโซเชียลมีเดีย

David Broom ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้าและการจัดจำหน่ายของ Sun Life Asia กล่าวว่า "ผลการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างผู้ที่กำลังสร้างเสถียรภาพทางการเงินอย่างจริงจัง และผู้ที่ติดอยู่ในวังวนของการเอาตัวรอดในระยะสั้น ความรู้ทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าที่เคยในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน และพวกเราที่ Sun Life เชื่อว่าความรู้ทางการเงินจะสร้างความแตกต่างอย่างมากในการช่วยให้ผู้คนสามารถควบคุมการเดินทางทางการเงินของตนเองได้มากขึ้น เราให้คำแนะนำ และโซลูชันแก่ลูกค้าของเราที่จำเป็นในการบริหารการเงินในปัจจุบันและออมเงินสำหรับอนาคต"

ดูรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Sun Life

Sun Life เป็นองค์กรบริการทางการเงินระหว่างประเทศชั้นนำที่ให้บริการโซลูชันด้านการจัดการสินทรัพย์ ความมั่งคั่ง การประกันภัย และสุขภาพแก่ลูกค้ารายบุคคลและลูกค้าสถาบัน Sun Life ดำเนินธุรกิจในตลาดหลายแห่งทั่วโลก ประกอบด้วยแคนาดา สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย อินเดีย จีน ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย และเบอร์มิวดา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 Sun Life มีสินทรัพย์รวมภายใต้การบริหารอยู่ที่ 1.54 ล้านล้านดอลลาร์ เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sunlife.com

Sun Life Financial Inc. เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตรอนโต (TSX), นิวยอร์ก (NYSE) และฟิลิปปินส์ (PSE) ภายใต้สัญลักษณ์ย่อ SLF

โปรดทราบ: ตัวเลขสกุลเงินทั้งหมดเป็นหน่วยดอลลาร์แคนาดา เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอื่น

Financial literacy is crucial as short-term priorities overshadow long-term goals amid rising costs
Financial literacy is crucial as short-term priorities overshadow long-term goals amid rising costs

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2719568/Sun_Life_Asia_Sun_Life_Asia_Financial_Resilience_Index_reveals_G.jpg?p=medium600
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2719569/Sun_Life_Asia_Sun_Life_Asia_Financial_Resilience_Index_reveals_G.jpg?p=medium600


ที่มา : ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - ดัชนีความยืดหยุ่นทางการเงินของ Sun Life Asia ได้เผยให้เห็นว่าเจนซีมีความมั่นคงทางการเงินน้อยที่สุด ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อได้บังคับให้เปลี่ยนมุมมองไปเป็นการคิดในระยะสั้น https://www.prnasia.com/asia-story/archive/4719189_TH19189_10

ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้จัดทำโดย ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านข่าวของเรา ความคิดเห็นของผู้เขียนและเนื้อหาที่แบ่งปันในหน้านี้ถือเป็นความคิดเห็นของตนเอง และอาจไม่จำเป็นต้องแสดงถึงมุมมองของ พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์

แสดงความคิดเห็น