เซบิยา, สเปน, 10 มิ.ย. 2568 /PRNewswire/ -- Enertis Applus+ บริษัทที่ปรึกษาทางเทคนิคด้านวิศวกรรมระดับโลก ได้เผยแพร่การวิเคราะห์โดยละเอียดของโครงการแผงโซลาร์เซลล์แบบติดตามแกนเดี่ยวขนาด 47 เมกะวัตต์ในเมืองเซบิยา ประเทศสเปน โดยเปรียบเทียบประสิทธิภาพเชิงพาณิชย์ของเทคโนโลยีแบบสัมผัสย้อนกลับ (BC) และแบบสัมผัสพาสซีฟอุโมงค์ออกไซด์ (TOPCon) มีการประเมินผลผลิตพลังงาน (EYA) ตามข้อมูลโมดูลที่ LONGi จัดทำขึ้น ผลลัพธ์ยืนยันว่าโมดูล HPBC2.0 Hi-MO 9 ของ LONGi มีประสิทธิภาพเหนือกว่าทางเลือก TOPCon อื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญในด้านประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า การควบคุมต้นทุน และต้นทุนไฟฟ้าเฉลี่ย (LCOE) ซึ่งเป็นการรับรองเชิงเทคนิคที่มั่นคงสำหรับการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในระดับสาธารณูปโภคทั่วโลก

ผลการค้นพบที่สำคัญ:

• อัตราผลผลิตพลังงานต่อวัตต์สูงขึ้น 3.4%: Hi-MO 9 มีชั่วโมงการทำงานในปีแรก 2,209 ชั่วโมง มากกว่ารุ่นเทียบเท่าของ TOPCon ถึง 2.4%-3.4% ทำให้รายได้ของโครงการเพิ่มขึ้นโดยตรง
• ต้นทุนเท่ากันแม้ราคาสูงกว่า: ถึงแม้ Hi-MO 9 มีราคาสูงกว่า TOPCon เพียง 0.7¢/W แต่ CAPEX (ค่าใช้จ่ายในการลงทุน) โดยรวมยังคงเทียบเคียงได้ผ่านการออกแบบระบบและโครงสร้างต้นทุนที่เหมาะสมที่สุด

• การลด LCOE นำอุตสาหกรรม: Hi-MO 9 ไปถึง LCOE ที่ 0.02706 €/kWh ซึ่งต่ำกว่าโมดูล TOPCon ถึง 3.92-4.47% โดยข้อได้เปรียบด้านต้นทุนมาจาก: การจัดสรรต้นทุนคงที่ที่ลดลงต่อหน่วยพลังงานผ่านผลผลิตที่สูงขึ้น การบีบอัดต้นทุนผันแปรผ่านความเข้ากันได้ของตัวติดตามที่เพิ่มขึ้นและการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าที่ลดลง

การศึกษาวิจัยนี้ยืนยันความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ของเทคโนโลยี BC ในการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนตลอดอายุการใช้งานให้สูงสุดผ่านผล "การเพิ่มประสิทธิภาพและการควบคุมต้นทุน" ร่วมกัน ด้วยการลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลงอย่างมีนัยสำคัญ Hi-MO 9 จึงช่วยให้สินทรัพย์พลังงานแสงอาทิตย์สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในตลาดพลังงานโลก พร้อมกับเร่งความพยายามในการลดการปล่อยคาร์บอน