เซินเจิ้น, ประเทศจีน, 13 กันยายน 2568 /PRNewswire/ -- หลังจากจัดกิจกรรมยาวนานเกือบสองเดือน แคมเปญ WeConnect 2025 ของ Hollyland ก็ได้ปิดฉากลงในวันที่ 12 กันยายน ซึ่งตรงกับวัน Hollyland Brand Day ถือเป็นการสิ้นสุดการเดินทางระดับโลกที่เชื่อมโยงเทคโนโลยี วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน แคมเปญนี้ซึ่งผสมผสานทั้งประสบการณ์ออฟไลน์และกิจกรรมดิจิทัล ได้โอบรับแนวคิดเรื่องการเชื่อมต่อ (CONNECTION) การทลายพรมแดนทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการสำรวจข้ามวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์

การร่วมมือ วัฒนธรรม และการเชื่อมต่อ

หัวใจของโครงการนี้คือ WeConnect 2025 China Tour ซึ่งนำผู้สร้างสรรค์จากทั่วโลกกว่า 30 คน อาทิ Landon Bytheway จากโรงเรียนภาพยนตร์ออนไลน์ FTF (Full Time Filmmaker), นักสร้างคอนเทนต์ Jairo Eslava (@yolerolero) รวมทั้งนักแสดงและยูทูบเบอร์ชาวอินโดนีเซีย Chandra Liow ไปสัมผัสการเดินทางอันเต็มเปี่ยมด้วยการมีส่วนร่วมและซึมซับบรรยากาศอย่างลึกซึ้งในเซินเจิ้นและฉงชิ่ง

การเดินทางเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ณ สำนักงานใหญ่ของ Hollyland ในเซินเจิ้น กิจกรรมละลายพฤติกรรมช่วยสร้างสายสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยประสบการณ์ทดลองใช้งานจริง ทั้งการสลักไมโครโฟนด้วยเลเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และการใช้งานกล้องถ่ายทอดสดรุ่นใหม่ VenusLiv Air เวทีเสวนาแบบพบปะพูดคุยอย่างใกล้ชิดยิ่งทำให้การสนทนาแลกเปลี่ยนลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสร้างบรรยากาศให้แก่การสำรวจประสบการณ์ใหม่ ๆ ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์

ในฉงชิ่ง การเดินทางได้เปลี่ยนเป็นการซึมซับและดื่มด่ำกับวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นค่ำคืนหม้อไฟที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและมีชีวิตชีวาและการเล่นเกมตามภาษาถิ่น ไปจนถึงการชมอุปรากรจีนเสฉวนเปลี่ยนหน้ากาก และการรินชาด้วยกาน้ำพวยยาว ณ โรงน้ำชาเจียวถงทีเฮาส์ (Jiaotong Teahouse) เหล่าครีเอเตอร์ได้สัมผัสกับประเพณีอันมีชีวิตชีวาของเมืองอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ พวกเขายังได้เดินทางไปเยือนป่าลอยน้ำที่ Raffles City และนั่งชิงช้าลอยฟ้า ท่ามกลางฉากหลังงดงามอย่างโดดเด่นที่ผสานเสน่ห์ของธรรมชาติเข้ากับทิวทัศน์เมือง เพื่อมอบแรงบันดาลใจสู่แนวทางใหม่ ๆ ในการเล่าเรื่องผ่านภาพ

ในวันที่ 30 สิงหาคม ผู้เข้าร่วมต่างรับบทบาทเป็นนักเล่าเรื่อง ถ่ายทอดจังหวะชีวิตของฉงชิ่งผ่านเลนส์กล้องของตน ไม่ว่าจะเป็นสถานี Liziba ที่รถไฟวิ่งทะลุผ่านอาคารสูง ไปจนถึงแสงไฟยามค่ำคืนของหงหยาต้ง (Hongyadong) ทุกภาพล้วนสะท้อนถึงพลังและเสน่ห์ที่ตัดกันของเมือง ส่วนในวันสุดท้าย ผู้เข้าร่วมได้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่สตูดิโอถ่ายภาพเก่าแก่ และลงมือสัมผัสมรดกภูมิปัญญาที่จับต้องไม่ได้ เช่น การทำสำเนาลายสลักด้วยการถูหมึก (ink rubbings) และการบำบัดด้วยการรมยาฝ่ามือ (palm moxibustion) เพื่อสร้างความผูกพันกับวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ยิ่งลึกซึ้ง

ตลอดการเดินทางครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ที่เหล่าครีเอเตอร์จะได้สัมผัสเทคโนโลยีล้ำสมัยของ Hollyland แต่ยังได้เข้าใจอย่างใกล้ชิดว่านวัตกรรมจีนถูกผสานรวมเข้ากับชีวิตประจำวันอย่างไร ตลอดช่วงระยะเวลาหลายวัน พวกเขาได้สำรวจประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย เปลี่ยนจากความประทับใจในภาพรวมไปสู่ความรู้สึกชื่นชมเป็นการส่วนตัวอย่างลึกซึ้ง กรอบการทำงานแบบร่วมสร้างสรรค์ของงานครั้งนี้ได้ส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมเปิดกว้างโอบรับความหลากหลาย สร้างสายสัมพันธ์ที่มีคุณค่า และร่วมมือเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกัน และด้วยเหตุนี้ การเดินทางครั้งนี้จึงพัฒนากลายเป็นสะพานเชื่อมวัฒนธรรม การร่วมมือ และการเชื่อมต่อ

นอกเหนือจาก China Tour ยังมีการจัดกิจกรรม Hollyland Academy Special Version ใน 9 ประเทศ โดยแต่ละแห่งได้นำเสนอกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมท้องถิ่นซึ่งผสานกับเวิร์กช็อปเชิงสร้างสรรค์ ตั้งแต่การปรุงสลัดแบบอียิปต์และอาหารทะเลแบบเอมิเรตส์ บาร์บีคิวบราซิลและการแข่งขันฟุตบอล ไปจนถึงการเยี่ยมชมวัดต่าง ๆ ในประเทศไทย กิจกรรมเหล่านี้ช่วยขยายคลังเครื่องมือสร้างสรรค์ของผู้เข้าร่วม พร้อมทั้งบูรณาการเครื่องมือเทคโนโลยีเข้าในกระบวนการ เพื่อส่งเสริมพันธกิจของโครงการ WeConnect ที่มุ่งผสานแรงบันดาลใจทางวัฒนธรรมเข้ากับการพัฒนาทักษะ

เสียง เรื่องราว และบทเพลง

ในด้านดิจิทัล Hollyland ได้เชิญชวนผู้ชมทั่วโลกให้เข้ามามีส่วนร่วมและร่วมสร้างสรรค์ผ่านโครงการต่าง ๆ

Sound Museum กลายเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่ดึงดูดความสนใจได้มากที่สุด ด้วยหัวข้อวัฒนธรรมหรือเทคโนโลยี ผู้เข้าร่วมได้ถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจในชีวิตประจำวัน ภาษาที่หลากหลาย และอารมณ์ความรู้สึกในรูปแบบของเสียง โดยสามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้สูงถึง 5,044 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์เมืองไปจนถึงการถ่ายทอดตัวตน โครงการนี้ได้กลายเป็นเสมือน "สะพานแห่งเสียง" ที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมเข้าด้วยกันผ่านการแบ่งปันเสียง และเน้นย้ำหัวใจสำคัญของแคมเปญ WeConnect ในเรื่องการบูรณาการวัฒนธรรม

โครงการ Hello World ได้ขยายวิสัยทัศน์นี้ในรูปแบบภาพ โดยให้ผู้เข้าร่วมสร้างผลงานภายใต้ธีม "เลนส์ใหม่กับสิ่งที่คุ้นเคย" (A Fresh Lens on the Familiar) ผ่านการตีความฉากในชีวิตประจำวันขึ้นใหม่ในมุมมองวัฒนธรรมที่หลากหลาย ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานได้แสดงถึงความรุ่มรวยของความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก และเน้นย้ำถึงคุณค่าของความร่วมมือด้านเทคโนโลยีที่สะท้อนออกมาอย่างชัดเจน

ในขณะเดียวกัน Theme Song Lab ได้เปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน เหล่าผู้ใช้ร่วมกันสร้างบทเพลงที่สื่อถึงการเชื่อมต่อข้ามวัฒนธรรมและภูมิภาคผ่านกระบวนการที่เปิดกว้างและให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม โดยแคมเปญนี้ได้รับยอดไลก์กว่า 11,000 ครั้ง และความเห็นที่แสดงความประทับใจกว่า 500 ข้อความ ทั้งนี้ สองบทเพลงจาก Patricia Bermúdez & Alonso Degert และจาก IAMJUSTSKAY & IMTPEE ได้รับเลือกให้ได้รับรางวัล โดยสามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งการเปิดกว้างยอมรับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมและความร่วมมือได้อย่างงดงาม

นอกจากนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่จับต้องได้ ได้มีการจัดส่งกล่องสุ่มสุดเซอร์ไพรส์ไปทั่วโลกเมื่อวันที่ 1 กันยายน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ Hollyland ได้ร่วมแบ่งปันความสุขจากการค้นพบสิ่งใหม่

แม้แคมเปญ WeConnect 2025 จะสิ้นสุดลง แต่ Hollyland ได้ย้ำถึงพันธกิจในการสนับสนุนผู้สร้างสรรค์ ด้วยการผลักดันการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี บริษัทตั้งเป้าที่จะเสริมพลังความคิดสร้างสรรค์ เสริมสายสัมพันธ์ทั่วโลกให้แข็งแกร่ง และแสดงให้เห็นว่าการผสานรวมเทคโนโลยีและวัฒนธรรม สามารถจุดประกายให้เกิดความร่วมมือและแรงบันดาลใจได้อย่างไร้ขอบเขต