วอชิงตัน, 15 ตุลาคม 2568 /PRNewswire/ -- สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature หรือ IUCN) ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568 ยืนยันการจัดสถานะ "ใกล้สูญพันธุ์" (Endangered) สำหรับลิงแสม (long-tailed macaque หรือ "LTM") (ชื่อวิทยาศาสตร์: Macaca fascicularis)

การประกาศล่าสุดของ IUCN เกิดขึ้นหลังจากการยื่นคำร้องในปี 2566 โดย National Association for Biomedical Research (NABR) ซึ่งท้าทายการตัดสินของ IUCN คำร้องของ NABR ชี้ให้เห็นว่าการทบทวนโดย Hansen et al. ซึ่ง IUCN ใช้เป็นฐานในการตัดสินสถานะ ล้วนบิดเบือนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่¹ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำร้องของ NABR สามารถดูได้ทาง www.nabr.org

มีคำร้องแยกต่างหากที่ยื่นต่อ IUCN โดยดร. Hank Jenkins ระบุว่าผู้เขียน Hansen et al. อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนที่ต้องได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติมจาก IUCN ปัจจุบันยังไม่ชัดเจนว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หรือว่าผู้เขียนรายงานของ IUCN ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนจำเป็นต้องเปิดเผยหรือถอนตัวจากการพิจารณาหรือไม่

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 U.S. Fish and Wildlife Service ("the Service") ปฏิเสธคำร้องจากกลุ่มผู้สนับสนุนให้จัดลิงแสมอยู่ภายใต้ Endangered Species Act (ESA) คำร้องนั้นมีข้อมูลเดียวกับที่ยื่นต่อ IUCN ซึ่งเป็นฐานสำหรับการประเมินปัจจุบันของ IUCN ทั้งนี้ ในการปฏิเสธ คณะกรรมการระบุว่า "คำร้องไม่ได้เสนอข้อมูลที่น่าเชื่อถือเพื่อสนับสนุนผลกระทบต่อประชากรหรือต่อสายพันธุ์โดยรวม" ผลการพิจารณาฉบับเต็มเกี่ยวกับคำร้องให้ลิงแสมอยู่ใน ESA ของสหรัฐฯ เผยแพร่ใน Federal Register และเข้าถึงได้ที่นี่: "LTM_Petition.pdf" ไม่มีรัฐบาลใดในโลกที่ถือว่าลิงแสมเป็นสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ งานวิจัยที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิชี้ว่าการตัดสินล่าสุดของ IUCN และข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินนั้นมีข้อบกพร่องและไม่มีหลักฐานรองรับ²

"ทีมวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของ NABR รู้สึกผิดหวังที่ IUCN ไม่พิจารณาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่นำเสนออย่างเป็นกลาง" ดร. Ray Hilborn นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังระดับโลกและสมาชิกทีมวิจัยของ NABR กล่าว

"การขาดข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มประชากร และการบิดเบือนข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามอย่างจริงจังต่อกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ IUCN ใช้ในการตัดสินนี้" ดร. Hilborn กล่าวเพิ่มเติม

มีการใช้ลิงแสมในงานวิจัยชีวการแพทย์อย่างกว้างขวางทั่วโลก เนื่องจากมีความคล้ายคลึงทางสรีรวิทยาและพันธุกรรมกับมนุษย์ ยา 5 ใน 20 ตัวที่ใช้กันมากที่สุดได้รับการพัฒนาด้วยความช่วยเหลือจากลิงแสม การวิจัยโดย ใช้ลิง LTM มีความสำคัญต่อความก้าวหน้าด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ภูมิคุ้มกันวิทยา มะเร็ง การพัฒนาวัคซีน และเภสัชวิทยา รวมถึงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19³ ในแง่นี้ สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) เพิ่งเผยแพร่บทวิจารณ์ยืนยันความสำคัญของลิง LTM ในการทำวิจัยชีวการแพทย์

"NABR รู้สึกผิดหวังที่แม้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากมาย IUCN กลับยอมคล้อยตามแรงกดดันจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสัตว์ ให้เสนอว่าลิง LTM อยู่ในภาวะเสี่ยง" คุณ Matthew R. Bailey ประธาน NABR กล่าว "ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่แสดงชัดเจนว่าสายพันธุ์นี้ไม่ได้อยู่ในภาวะเสี่ยง และในความเป็นจริงถูกพิจารณาว่าเป็นสายพันธุ์รุกรานในหลายประเทศ เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่าทำไม IUCN จึงระบุว่าสายพันธุ์นี้อยู่ในภาวะเสี่ยง โดยที่ในขณะเดียวกันก็กล่าวว่าสายพันธุ์นี้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์รุกรานที่สุดของโลก ทั้งนี้ NABR จะเดินหน้าให้ความรู้กับผู้กำหนดนโยบายและประชาชนต่อไปเพื่อปกป้องสาธารณสุขและความซื่อตรงของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์"

จากการตีพิมพ์ "100 of the World's Worst Invasive Alien Species"  IUCN ยอมรับว่าลิงแสมเป็นสายพันธุ์รุกราน⁴

สถานะการอนุรักษ์ของลิงแสมและการมีส่วนร่วมของ PETA ในโครงการของรัฐบาล เป็นหัวข้อของการประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อเดือนกันยายน 2567 พยานในที่ประชุมระบุว่า PETA และกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสัตว์อื่น ๆ พยายามแทรกแซงการสอบสวนของรัฐบาลต่อเอกชนและรัฐบาลต่างประเทศด้วยเหตุผลทางการเมืองอย่างไม่เหมาะสม

เกี่ยวกับ National Association for Biomedical Research
ก่อตั้งในปี 2522 NABR เป็นสมาคมไม่แสวงหากำไรประเภท 501(c)(6) เพียงแห่งเดียวที่มุ่งส่งเสริมนโยบายสาธารณะที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้สัตว์อย่างมีมนุษยธรรมในงานวิจัย การศึกษา และการทดสอบทางชีวการแพทย์ สมาชิกประกอบด้วยมหาวิทยาลัย โรงเรียนแพทย์และสัตวแพทย์ โรงพยาบาลสอน บริษัทเภสัชกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ กลุ่มผู้ป่วย รวมถึงสมาคมทางวิชาการและวิชาชีพมากกว่า 340 แห่ง ซึ่งพึ่งพาการวิจัยสัตว์อย่างมีมนุษยธรรมและรับผิดชอบเพื่อความก้าวหน้าของสุขภาพมนุษย์และสัตว์ทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nabr.org

¹ ดู Hilborn, R., & Smith, D. R. (2023). Is the long–tailed macaque at risk of extinction? American Journal of Primatology, e23590. (เข้าถึงได้ทาง https://doi.org/10.1002/ajp.23590)

² ดู Hilborn, R., & M. Chaloupka (2025). Estimating the abundance of widely distributed primates. American Journal of Primatology (ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์แล้ว)

³ ดู Albrecht, L., E. Bishop, B. Jay, B. Lafloux, M. Minoves, C. Passaes (2021). COVID-19 Research: Lessons from Non-Human Primate Models (2021) doi: 10.3390/vaccines9080886 (เข้าถึงได้ทาง www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC8402317/)

⁴ ดู IUCN, 100 of the World's Worst Invasive Alien Species (เข้าถึงได้ทาง www.iucngisd.org)

ติดต่อ: Eva Maciejewski
emaciejewski@nabr.org
(202) 967-8305

โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1138543/NABR_Logo_1.jpg?p=medium600