เซินเจิ้น, จีน, 22 ธ.ค. 2568 /PRNewswire/ -- ในยุคดิจิทัลที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ชีวิตสมัยใหม่และกิจกรรมทางเศรษฐกิจล้วนพึ่งพาเครือข่ายต่าง ๆ เป็นอย่างมาก ความเสถียรของเครือข่ายส่งผลกระทบโดยตรงต่อ 'สุขภาวะดิจิทัล' รวมถึง 'ความรู้สึกการมีส่วนร่วมทางสังคม' ของสาธารณชน ในฐานะที่เป็นมันสมองของเครือข่าย เครือข่ายหลักต้องมีความเสถียร เนื่องจากความขัดข้องของบริการใด ๆ อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายสิบล้านคน ทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมอย่างมหาศาล โซลูชัน ICNMaster MDAF ของ Huawei สร้างระบบอัจฉริยะที่มีความเสถียรสูงบนพื้นฐานของเทคโนโลยี MoM (Mixture of Models), การทำงานร่วมกันแบบหลายเอเจนต์ และแบบจำลองเสมือนจริงของเครือข่าย ช่วยให้สามารถป้องกันความเสี่ยงเชิงรุก, กู้คืนความผิดพลาดอย่างรวดเร็ว รวมถึงฟื้นฟูบริการได้ภายในไม่กี่นาที ผู้ให้บริการทั่วโลกจึงเดินทางสู่ความเสถียรสูงระดับ L4 และรับประกันประสบการณ์ความต่อเนื่องของบริการได้เร็วขึ้น

เมื่อเทคโนโลยี 5G และคลาวด์พัฒนาขึ้น บริการต่าง ๆ ก็ยิ่งมีความหลากหลาย การอยู่ร่วมกันของหลายรุ่น, APIs ระหว่างรุ่นที่ซับซ้อน, สัญญาณกระชาก, ความผิดพลาดของเครือข่ายการขนส่ง และความล้มเหลวของศูนย์ข้อมูล ยิ่งสร้างแรงกดดันต่อผู้ให้บริการในการรักษาระดับความน่าเชื่อถือของเครือข่ายหลักให้อยู่ในระดับผู้ให้บริการ ควบคู่ไปกับการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของการแยกส่วนซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ จากสถิติของ GlobalData พบว่า 42% ของผู้ให้บริการประสบปัญหาการหยุดชะงักของบริการเครือข่ายหลักในช่วงสามปีที่ผ่านมา โดยความถี่เพิ่มขึ้นทุกปี ก่อให้เกิดความกังวลในอุตสาหกรรมเป็นวงกว้าง เพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้ให้บริการทั่วโลกในการยกระดับความน่าเชื่อถือของเครือข่ายหลักอย่างต่อเนื่อง TM Forum ได้ออกมาตรฐานการประเมินความเสถียรสูงของเครือข่ายหลัก ผู้ให้บริการหลายสิบรายได้เข้าร่วมการประเมินแล้ว การเพิ่มความน่าเชื่อถือของเครือข่ายหลักได้กลายเป็นฉันทามติของอุตสาหกรรม

Huawei เปิดตัวระบบ ICNMaster MDAF ระบบอัจฉริยะเพื่อความเสถียรสูงในการตอบสนองความต้องการของผู้ให้บริการทั่วโลกสำหรับความเสถียรสูงของเครือข่ายหลัก โดยต่อยอดจากนวัตกรรมก่อนหน้านี้ อาทิ "ตัวแทนจัดการความผิดพลาด" และ "ตัวแทนจัดการข้อร้องเรียน" โดยนำเสนอเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ได้แก่ สถาปัตยกรรม MoM, การทำงานร่วมกันของหลายเอเจนต์ รวมถึงการทำงานร่วมกันของแบบจำลองเสมือนจริงระหว่างเอเจนต์และเครือข่าย สิ่งนี้ช่วยยุติปัญหาโดยอัตโนมัติ, ลดโอกาสการเกิดผลกระทบ, กู้คืนบริการได้ภายในไม่กี่นาที ตลอดจนเสริมความเสถียรสูงให้กับเครือข่ายหลักระดับ L4

จาก 'สถาปัตยกรรมแบบโมเดลเดียว' สู่ 'สถาปัตยกรรมแบบหลายโมเดล': เมื่อเทียบกับสถาปัตยกรรมโมเดลเดียวแบบดั้งเดิม สถาปัตยกรรม MoM สามารถสร้างความก้าวหน้าในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยผสานข้อดีของโมเดลการอนุมานอันรวดเร็วเข้ากับโมเดลการให้เหตุผลเชิงลึกอย่าง DeepSeek กรอบการทำงานการกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลโมเดลอัจฉริยะจะจัดสรรงานอย่างไม่หยุดนิ่ง กล่าวคืองานประจำที่มีความถี่สูงจะได้รับการจัดการทันทีโดยโมเดลที่รวดเร็วและแม่นยำ ในขณะที่ความผิดปกติอันซับซ้อนซึ่งต้องการการให้เหตุผลเชิงลึกจะถูกมอบหมายให้กับโมเดลการให้เหตุผล สิ่งนี้การันตีการตอบสนองอันรวดเร็วทันใจต่อปัญหาทั่วไปและการให้เหตุผลเชิงลึกสำหรับข้อผิดพลาดที่ซับซ้อน ทำให้ได้ประสิทธิภาพและความแม่นยำสูงสุด

จาก 'ระบบอัตโนมัติแบบเอเจนต์เดียว' สู่ 'การยุติปัญหาด้วยตนเองแบบร่วมมือกันของเอเจนต์หลายตัว': เอเจนต์เดี่ยวแบบดั้งเดิมจะทำงานอัตโนมัติเฉพาะสถานการณ์แต่ละอย่างที่แยกจากกันเท่านั้น เทคโนโลยีการทำงานร่วมกันของหลากหลายเอเจนต์สามารถรวมเอเจนต์หลายตัวเข้าด้วยกันอย่างเป็นระเบียบ ดำเนินการจัดการเอเจนต์ การแก้ไขข้อขัดแย้ง และอื่น ๆ การดำเนินการแก้ไขปัญหาได้รับการตรวจสอบความถูกต้องผ่านระบบแบบจำลองเสมือนจริงของเครือข่าย ซึ่งการันตีมาตรการแก้ไขที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพก่อนนำไปใช้กับเครือข่ายจริง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะทำให้เกิดวงจรปิดตัวเองของ "การรับรู้-การวิเคราะห์-การตัดสินใจ-การดำเนินการ"

โซลูชันความเสถียรสูงแบบร่วมมือกันหลายเอเจนต์บนพื้นฐาน ICNMaster MDAF MoM ของ Huawei ไม่ได้เป็นแค่การปรับปรุง หากคือก้าวสำคัญสู่เครือข่ายอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์ ผู้ให้บริการไม่เพียงมอบการเชื่อมต่อ แต่ยังรวมถึงรากฐานดิจิทัลอันยืดหยุ่น ชาญฉลาด และมุ่งเน้นอนาคตด้วย โซลูชันนี้ช่วยแก้ไขความขัดแย้งที่มีมายาวนานระหว่างความเสถียรของเครือข่ายและประสิทธิภาพการดำเนินงาน อีกทั้งเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์พื้นฐานในรูปแบบการดำเนินงานของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจากที่เน้นเครือข่ายเป็นศูนย์กลางสู่ผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง รูปแบบการทำงานร่วมกัน "เอเจนต์ + แบบจำลองเสมือนจริง" ซึ่งได้รับการตรวจสอบความถูกต้องโดยระบบนี้ วางรากฐานทางเทคนิคและการปฏิบัติที่มั่นคงสำหรับการสร้างเครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์ในอนาคต