จับตาการเมืองมองโกเลีย รัฐบาลผสมอาจล่ม สัญญาณเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรง...

ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์

พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์ x ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์

ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - จับตาการเมืองมองโกเลีย รัฐบาลผสมอาจล่ม สัญญาณเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรง

ชอบข่าวนี้?
  • วันจันทร์นี้ มองโกเลียจะมีการลงคะแนนเสียงครั้งสำคัญในรัฐสภา ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลผสมต้องหมดอำนาจ
  • ผลวิเคราะห์ใหม่จากคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจมองโกเลียชี้ว่า เรื่องนี้อาจส่งผลให้รายได้ประชาชาติและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ( FDI) ลดฮวบ รวมถึงเงินเฟ้อพุ่งกระฉูด
  • ความไม่มั่นคงทางการเมืองจะบั่นทอนความคืบหน้าทางเศรษฐกิจที่ทำมาได้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้

อูลานบาตอร์, มองโกเลีย, 2 มิถุนายน 2568 /PRNewswire/ -- ขณะที่รัฐสภามองโกเลียเตรียมลงมติในวันจันทร์นี้ว่าจะให้รัฐบาลผสมชุดปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ บทวิเคราะห์เศรษฐกิจฉบับใหม่ได้เตือนว่า การล่มสลายของรัฐบาลอาจทำให้ขนาดเศรษฐกิจของมองโกเลียหดตัวลงกว่า 20% ภายใน 6 เดือน และ FDI ลดลงเกือบ 40% เมื่อเทียบเป็นรายปี

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี Oyun-Erdene ได้เรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาตัดสินใจว่า รัฐบาลผสมที่อยู่ในอำนาจมาตั้งแต่การเลือกตั้งรัฐสภาเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ควรจะอยู่ต่อเพื่อยุติความไม่มั่นคงทางการเมืองที่ผ่านมาหรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดกล่าวต่อรัฐสภาในวันจันทร์ ก่อนการ 'ลงมติไว้วางใจ' ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของมองโกเลีย นับตั้งแต่ที่ได้เปลี่ยนมาปกครองแบบประชาธิปไตยในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1990

เมื่อใกล้ถึงวันลงคะแนนเสียง ข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหม่จากคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจของมองโกเลีย (ดูฉบับเต็มได้ที่นี่) ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับระดับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มองโกเลียอาจต้องเผชิญ ซึ่งได้แก่

  • รายได้ประชาชาติรวมลดลง 22% ภายใน 6 เดือน
  • เงินเฟ้อพุ่งขึ้น 12.2% ภายในปีเดียว
  • อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • ค่าเงินทูกริกของมองโกเลียอ่อนค่าลง 17.9% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปี 2568
  • ดัชนีความมั่นคงทางการเมืองของมองโกเลียลดลง 18 จุด เมื่อเทียบเป็นรายปี

การคาดการณ์เหล่านี้สอดคล้องกับประสบการณ์ของประเทศอื่น ๆ ที่ความไม่มั่นคงทางการเมืองส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ รวมถึงกรณีที่รัฐบาลผสมล่มสลายด้วย

  • จากข้อมูลของธนาคารโลกและแหล่งข้อมูลสำคัญอื่น ๆ การล่มสลายของรัฐบาลผสมในเอสโตเนียทำให้ FDI ตกฮวบจาก 7.54% ในปี 2564 เหลือเพียง 0.74% ในปี 2567 และการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวจาก 7.3% ในปี 2564 เหลือ -0.9% ในปี 2567
  • การศึกษาจากต่างประเทศที่วิเคราะห์ข้อมูลจาก 169 ประเทศระหว่างปี 2503 ถึง 2547 สรุปได้ว่า ระดับความไม่มั่นคงทางการเมืองที่สูงนั้นสัมพันธ์กับการเติบโตของ GDP ต่อหัวที่ต่ำลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการลดลงของผลิตภาพ และการสะสมทุนทางกายภาพและทุนมนุษย์ที่ลดลง

ดร. Batnasan B. ศาสตราจารย์จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งชาติมองโกเลีย และสมาชิกคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ ให้ความเห็นว่า

"ข้อมูลล่าสุดชี้ชัดถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากการล่มสลายของรัฐบาลผสมมองโกเลีย ทั้งเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างรุนแรง เงินเฟ้อที่พุ่งสูง และอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น

"เป็นเรื่องเหมาะสมที่ผู้แทนจากการเลือกตั้งจะตัดสินใจว่าใครควรบริหารประเทศ แต่ก็สำคัญไม่แพ้กันที่การตัดสินใจเหล่านั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน และเข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอย่างชัดเจน

"การวิเคราะห์ของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมถึงบทเรียนจากประเทศอื่น ๆ ที่เคยเผชิญสถานการณ์คล้ายกัน ได้ส่งสัญญาณเตือนที่น่าจับตาว่า ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่มองโกเลียสั่งสมมาอย่างยากลำบากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาจตกอยู่ในความเสี่ยงทั้งหมด หากผลการลงคะแนนในวันจันทร์นี้ทำให้การเมืองไม่มั่นคงยิ่งกว่าเดิม"

ทั้งนี้ การวิเคราะห์ใหม่นี้ รวมถึงกรณีศึกษาจากทั่วโลก แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสำคัญของการตัดสินใจที่สมาชิกสภาจะต้องลงมติในวันจันทร์นี้ และความเสี่ยงต่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่มองโกเลียทำเอาไว้ได้นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่ม GDP ต่อหัวอีก 2,400 ดอลลาร์สหรัฐ

หมายเหตุ

คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจมองโกเลีย: https://www.facebook.com/profile.php?id=61574363563476
อ่านบทวิเคราะห์เศรษฐกิจฉบับเต็มได้ที่นี่: https://nrpa.gov.mn/mn/zasgiyn-gazryn-togtvorguy-baydal

 


ที่มา : ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - จับตาการเมืองมองโกเลีย รัฐบาลผสมอาจล่ม สัญญาณเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรง https://www.prnasia.com/asia-story/archive/4700377_TH00377_10

ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้จัดทำโดย ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านข่าวของเรา ความคิดเห็นของผู้เขียนและเนื้อหาที่แบ่งปันในหน้านี้ถือเป็นความคิดเห็นของตนเอง และอาจไม่จำเป็นต้องแสดงถึงมุมมองของ พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์

แสดงความคิดเห็น