การประชุมเศรษฐกิจดิจิทัลโลก ประจำปี 2568 เตรียมเปิดฉาก 2 กรกฎาคมนี้ พร้อมเผยไฮไลต์สำคัญในงาน

การประชุมเศรษฐกิจดิจิทัลโลก ประจำปี 2568

ปักกิ่ง, 25 มิถุนายน 2568 /ซินหัว-เอเชียเน็ท/ดาต้าเซ็ต

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อประกาศว่าการประชุมเศรษฐกิจดิจิทัลโลก ประจำปี 2568 หรือ GDEC 2025 จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ งานปีนี้มาในธีม “Building a Digitally Friendly City” (สร้างเมืองที่เป็นมิตรกับดิจิทัล) โดยมีการจัดโครงสร้างแบบ “1+6+N” ซึ่งประกอบด้วยพิธีเปิด เวทีหลัก เวทีย่อยตามหัวข้อต่าง ๆ และกิจกรรมพิเศษมากมาย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการแลกเปลี่ยนและร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก พร้อมเน้นย้ำถึงการอยู่ร่วมกันอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีกับมนุษย์ รวมถึงเมืองและระบบนิเวศ ภายในงานจะมีการนำเสนอประเด็นสำคัญใน 4 ด้านด้วยกัน ได้แก่ การเปิดกว้างและการแบ่งปัน การให้ความสำคัญกับนวัตกรรมล้ำสมัย การบูรณาการอุตสาหกรรม และการยกระดับประสบการณ์

สร้างเวทีใหม่เพื่อความร่วมมือระดับนานาชาติและต้นแบบความร่วมมือระดับโลก

การประชุมปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เข้ามาร่วมจัดงานด้วย โดยจะเปิดตัวโครงการความร่วมมือ “UNDP Digital Friendliness and Sustainable Innovation Lab for the Digital Economy” (ศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อความเป็นมิตรและความยั่งยืนทางเศรษฐกิจดิจิทัล โดย UNDP) นอกจากนี้ งานประชุมยังขยายขอบเขตความร่วมมือไปสู่ยุโรปเป็นครั้งแรกเช่นกัน ด้วยการจับมือกับงานใหญ่ ๆ อย่าง โมบายล์ เวิลด์ คองเกรส บาร์เซโลนา (Mobile World Congress Barcelona) ประจำปี 2568 และงานฟูตูโรมุนโด มัลติคอนเฟอเรนซ์ แอนด์ เฟสติวัล (FUTUROMUNDO Multikonferenz & Festival) ของเยอรมนี ซึ่งการเป็นพันธมิตรเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมแนวทางของจีนในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทาง ดิจิทัลทั่วโลก

คุณหลิว เหว่ยเหลียง (Liu Weiliang) รองผู้อำนวยการคณะกรรมการเศรษฐกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศเทศบาลกรุงปักกิ่ง เปิดเผยว่า งานนี้จะดึงดูดแขกกว่า 300 คนจากกว่า 50 ประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศชั้นนำต่าง ๆ เช่น องค์การการค้าโลก (WTO), กลุ่มบริกส์ (BRICS) และองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ การรวมตัวกันครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และสร้างความร่วมมือข้ามพรมแดนระหว่างเมืองในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม

นำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีสุดล้ำ

ภายในงาน จะมีโปรแกรมพิเศษอย่าง “First Launch, First Showcase” (เปิดตัวครั้งแรก จัดแสดงครั้งแรก) เพื่อโชว์เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และโซลูชันสุดล้ำ นอกจากนี้ ยังจะได้ชมสุดยอดโครงการแอปพลิเคชันดิจิทัลในประเทศ และมีการเปิดตัว “สุดยอดแอปพลิเคชันต้นแบบเศรษฐกิจดิจิทัลของปักกิ่ง 10 อันดับ” ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยพัฒนาเมืองและยกระดับคุณภาพชีวิตได้อย่างไรบ้าง

มากมายมาใช้และโปรโมตเป็นครั้งแรก” โดยจะมีการนำ AI มาใช้สร้างสรรค์เนื้อเพลง แต่งเพลง เสียงร้อง และผลิตวิดีโอสำหรับมิวสิกวิดีโอในพิธีเปิด พร้อมเปิดรับผลงานจากทั่วโลกที่สร้างด้วยคอนเทนต์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AIGC) นอกจากนี้ ตลอดงานจะมีการทดสอบระบบแปลภาษาแบบเรียลไทม์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งสามารถจำลองเสียงพูดของผู้บรรยายได้ด้วย ที่สำคัญคือ ในสถานที่จัดพิธีเปิดจะมีการนำระบบควบคุมการเข้าออกที่ไหลลื่นและระบบที่นั่งอัจฉริยะมาใช้ พร้อมด้วยเครื่องบอกบทแบบโต้ตอบที่ฉายภาพกลางอากาศ และเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อีกเพียบ

จุดประกายแรงขับเคลื่อนใหม่ เพื่อการบูรณาการและการพัฒนาอุตสาหกรรม

งานประชุมครั้งนี้จะจุดประกายให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วย 46 เวทีย่อยเฉพาะทาง ที่เจาะลึกประเด็นการแข่งขันใหม่ ๆ อย่างการบูรณาการ AI, ความปลอดภัยทางดิจิทัล, องค์ประกอบข้อมูล และดิจิทัลเฮลธ์แคร์ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอย่างเวทีสำรวจกระแส (Tide-Watching Forum) และเวทีนวัตกรรมโอเพนซอร์สระดับโลก (Global Open Source Innovation Forum) ที่จะนำการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยมาขับเคลื่อนความก้าวหน้าในอุตสาหกรรม และส่งเสริมความร่วมมือเชิงลึกผ่านการพูดคุยระดับสูง พร้อมกันนี้ จะมีการเปิดตัวการแข่งขันนวัตกรรมเศรษฐกิจดิจิทัลที่มุ่งเน้นความเป็นสากล ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และการนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม โดยการแข่งขันนี้จะคัดเลือกโครงการนวัตกรรมที่น่าสนใจทั้งจากในและต่างประเทศ ที่สำคัญคือมีการเพิ่มหมวดหมู่ใหม่อย่าง “AIGC Creator Track” เพื่อผลักดันการประยุกต์ใช้ AI ในงานศิลปะแขนงดั้งเดิมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

คุณจ้าว จวินเซิง (Zhao Junsheng) รองเลขาธิการสมาคมวิสาหกิจด้านการสื่อสารแห่งประเทศจีน กล่าวว่า “การประชุมปีนี้ได้จัดตั้ง ‘เขตประสบการณ์อุตสาหกรรมเศรษฐกิจดิจิทัล’ ขึ้นมาใหม่ เพื่อเชิญชวนผู้เข้าร่วมหลากหลายกลุ่มให้มาร่วมกิจกรรมเชิงวิชาชีพ และช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศ”

ยกระดับประสบการณ์การโต้ตอบทางดิจิทัล

งานประชุมครั้งนี้เตรียมเปิดตัวศูนย์ประสบการณ์เศรษฐกิจดิจิทัล ขนาด 6,000 ตารางเมตร โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “สัปดาห์ประสบการณ์เศรษฐกิจดิจิทัล” ซึ่งจะใช้เทคโนโลยี AIGC และเมตาเวิร์ส สร้างพื้นที่เสมือนจริงแบบอินเทอร์แอคทีฟ ที่จะมอบประสบการณ์ความบันเทิงดิจิทัลอันน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ยังมีการจับมือกับบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะในบ้าน และผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมดิจิทัล เพื่อเปิดตัวตลาดดิจิทัลแบบป๊อปอัพอย่าง “ดิจิทัล เทรนด์ มาร์เก็ต” (Digital Trend Market) ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะได้มาสัมผัสด้วยตนเองว่าเศรษฐกิจดิจิทัลเข้ามาช่วยเติมเต็มชีวิตประจำวันของเราได้อย่างไรบ้าง ทั้งหมดนี้ครบจบในที่เดียว

ที่มา : การประชุมเศรษฐกิจดิจิทัลโลก ประจำปี 2568
โพสต์ : บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด
เผยแพร่ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์