
ข่าวสุขภาพ - รู้จัก 7 อาการสัญญาณที่บ่งบอกถึงโรคกรดไหลย้อน พร้อมวิธีจัดการเบื้องต้น

โพสต์โดย : Admin
IP Address : 1.46.88.54
อ๊อฟ ชัยนนท์ แบ่งปันประสบการณ์ พร้อมชวนเช็ก 7 อาการกรดไหลย้อน
หลายคนมองว่า อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย แน่นท้อง จุกเสียดหลังมื้ออาหาร เป็นเพียงผลจากการกินเร็ว เครียด หรือกิจวัตรประจำวันที่เปลี่ยนไป เช่น การสั่งอาหารเดลิเวอรี การทำงานล่วงเวลา หรือการใช้ชีวิตเร่งรีบ แต่ความจริงแล้ว อาการเหล่านี้อาจเป็น 1 ในสัญญาณเตือนของ “โรคกรดไหลย้อน”
ทำความเข้าใจโรคกรดไหลย้อน
โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD) คือ ภาวะที่น้ำย่อยหรือกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปยังหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการระคายเคือง เช่น แสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว หรืออาการอื่น ๆ ที่รบกวนคุณภาพชีวิต และหากปล่อยไว้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
โดยกรดไหลย้อนเกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง (Lower Esophageal Sphincter: LES) ที่ทำหน้าที่เปิด เพื่อให้อาหารผ่านลงกระเพาะอาหาร และปิด เพื่อป้องกันไม่ให้กรดไหลย้อนขึ้นมา หากกล้ามเนื้อส่วนนี้ หย่อนสมรรถภาพหรือปิดไม่สนิท จะทำให้กรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมายังหลอดอาหารได้ง่าย นอกจากนี้ อาจเกิดจากการบีบตัวของหลอดอาหารหรือกระเพาะอาหารผิดปกติ หรือมีโรคประจำตัวบางอย่าง
นอกจากสาเหตุข้างต้น โรคกรดไหลย้อน สามารถเกิดได้จากพฤติกรรมเสี่ยงในชีวิตประจำวัน โดยในปัจจุบัน คนไทยจำนวนมากเผชิญกับปัญหาโรคกรดไหลย้อน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่มีวิถีชีวิตเร่งรีบ ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ตัว และไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่งผลให้อาการกรดไหลย้อนเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในหลาย ๆ ด้าน โดยคุณอ๊อฟ ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ ผู้ประกาศข่าวรุ่นใหม่ หนึ่งในผู้ที่มีประสบการณ์ตรงกับโรคกรดไหลย้อนได้ออกมาแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อเป็นแนวทางให้กับใครที่มีอาการคล้ายกัน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพก่อนที่โรคจะลุกลามหรือรุนแรงขึ้นจนส่งผลกระทบในระยะยาว
7 สัญญาณอาการโรคกรดไหลย้อน รู้ก่อนจัดการได้
นอกเหนือจากอาการเรอเปรี้ยวหรือแสบร้อนกลางอกหลังมื้ออาหาร แนะนำให้ทุกคนลองสังเกตตัวเอง เพราะหากพบว่า มีอาการเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายข้อร่วมกัน อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า คุณกำลังประสบกับภาวะกรดไหลย้อน และควรเริ่มต้นดูแลสุขภาพหรือพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
- ท้องอืด อาหารไม่ย่อยจากกรดเกิน
- ไม่สบายท้อง แน่นท้อง จุกเสียด
- ปวดท้องช่วงบน จุกแน่นลิ้นปี่
- เรอเปรี้ยว
- คลื่นไส้ รู้สึกเหมือนมีน้ำย่อยไหลขึ้นมา
- แสบร้อนกลางอก
- แสบคอ จุกแน่นในลำคอ กลืนลำบาก
ปัจจัยและพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อน
ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรคกรดไหลย้อนหรืออาการกรดไหลย้อนรุนแรงขึ้น มักมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่หลายคนอาจมองข้าม
- ปัจจัยจากการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการกิน เช่น กินอาหารไม่ตรงเวลา กินมากเกินไป กินแล้วนอนทันที การกินอาหารบางชนิด เช่น อาหารมัน อาหารทอด อาหารรสจัด น้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รวมไปถึงความเครียดสะสม การดื่มสุรา และการสูบบุหรี่
- ปัจจัยทางกายภาพ น้ำหนักตัวมากเกินไปหรือเป็นโรคอ้วน อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์
- ปัจจัยจากโรคและยา
ผลกระทบและภาวะแทรกซ้อน
แม้โรคกรดไหลย้อนจะดูเหมือนเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่รุนแรงในระยะแรกจนทำให้หลายคนมองข้ามความอันตรายไป แต่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจลุกลามจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
ผลกระทบระยะสั้น
- คุณภาพชีวิตลดลง: เมื่อมีอาการผิดปกติจากกรดไหลย้อน อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวจนรบกวนกิจวัตรประจำวัน เช่น การนอนหลับ การรับประทานอาหาร
- การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ: อาการที่เกิดขึ้นเป็นประจำ อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง จำเป็นจะต้องหยุดงานหรือขาดงานบ่อยครั้ง
- ปัญหาทางสังคม: เมื่อมีอาการไม่สบาย อาจทำให้อยากหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมหรือการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น
ผลกระทบระยะยาว
- การอักเสบเรื้อรังของหลอดอาหาร (Esophagitis): กรดที่ไหลย้อนขึ้นมาสัมผัสเยื่อบุหลอดอาหารซ้ำ ๆ ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง อาจมีแผลหรือเลือดออก ส่งผลให้กลืนอาหารลำบากหรือเจ็บขณะกลืน
- Barrett’s Esophagus: ภาวะที่เยื่อบุหลอดอาหารเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลอดอาหารในอนาคต
- ความเสี่ยงต่อมะเร็งหลอดอาหาร: การอักเสบเรื้อรัง และภาวะ Barrett’s Esophagus เพิ่มโอกาสที่เซลล์เยื่อบุหลอดอาหารจะกลายเป็นเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนรุนแรงหรือเป็นมานาน
การป้องกันและการจัดการเบื้องต้น
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร : ทานอาหารให้ตรงเวลา และแบ่งเป็นมื้อเล็ก ๆ หลายมื้อ พร้อมหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นอาการ และไม่นอนทันทีหลังทานอาหาร ควรรออย่างน้อย 2 - 3 ชั่วโมง
- การจัดการความเครียด : หากิจกรรมผ่อนคลายจากการทำงานหรือการเรียน เช่น การออกกำลังกาย การทำงานอดิเรกที่ชอบ และการนอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ
- การดูแลสุขภาพทั่วไป : ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
- การเลือกรับประทานยาลดกรดและบรรเทากรดไหลย้อนจากประเทศอังกฤษที่มี 2 กลไกการออกฤทธิ์ ทั้งปรับสภาพกรดในกระเพาะอาหารให้เป็นกลาง ควบคู่กับการสร้างชั้นแพเจล ป้องกันกรดไหลย้อนขึ้นสู่หลอดอาหาร ออกฤทธิ์นาน 4 ชั่วโมง
แหล่งอ้างอิง :
- กลไกการออกฤทธิ์ของยาลดกรด
- ประสิทธิภาพของยาลดกรด
สนับสนุนโดยกาวิสคอน
เมื่อมีอาการกรดไหลย้อน ต้อง ‘กาวิสคอน ดับเบิ้ล แอคชั่น มิ้นต์’ ยาบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอก อาหารไม่ย่อยเนื่องจากกรดไหลย้อน และลดกรดในกระเพาะอาหาร ด้วย 7 คุณสมบัติรักษาหลากหลายอาการจากกรดไหลย้อน
- อาหารไม่ย่อย
- แสบร้อนกลางอก
- กรดเกิน
- เรอเปรี้ยว
- เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น
- ใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร
- ใช้ได้ในผู้สูงอายุ
ด้วย 2 กลไกการออกฤทธิ์ ไม่เพียงลดกรดปรับสภาพกรดในกระเพาะอาหารให้เป็นกลาง แต่ยังสร้างแพเจล ป้องกันกรดไหลย้อนขึ้นสู่หลอดอาหาร ออกฤทธิ์นาน 4 ชั่วโมง
ที่มา : บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย)
โพสต์ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์
เผยแพร่ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์

ส่วนสมาชิก
Mid Year Sale! ลดแรงกลางปี ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ พร้อมเผยแพร่ไปยังสื่อออนไลน์ในเครือของเรา เพียง 100 บาท เท่านั้น วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2568
ผลสลากกินเเบ่งรัฐบาล
รางวัลที่ 1 | 2 ตัว | เลขท้าย 3 ตัว | เลขหน้า 3 ตัว |
---|---|---|---|
245324 | 26 | 084 336 | 995 171 |
จองตั๋วรถทัวร์ออนไลน์



คำค้นแนะนำ
