ข่าวเศรษฐกิจ, การเงิน - อัปเดตเงินฝากดอกเบี้ยสูงปี 2568 พร้อมเทคนิคออมเงินอย่างมั่นคง

ชอบข่าวนี้?
7 ต.ค. 68 15:30

โพสต์โดย : Admin
IP Address : 49.229.161.248

อัปเดตบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงปี 2568 พร้อมเทคนิคออมเงินมั่นคง

อัปเดตเงินฝากดอกเบี้ยสูงปี 2568 พร้อมเทคนิคออมเงินมั่นคง

อัปเดตปี 2568 นี้ บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงคืออีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญสำหรับใครที่อยากให้เงินออม “ทำงาน” เพื่อคุณมากกว่าที่เคย โดยเฉพาะกับบัญชีออมทรัพย์และบัญชีฝากประจำจากธนาคารกรุงไทย ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้รับผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้น พร้อมกับเทคนิคออมเงินมั่นคงที่แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็ทำตามได้ง่าย จะร่วมกันวางแผนออมให้เป็นระบบ แนวทางการเลือกบัญชีให้เหมาะกับเป้าหมายเก็บเงิน และทริคเล็กๆ แสนฉลาดที่อาจช่วยเพิ่มดอกเบี้ยได้หลักพัน หรือหลักหมื่นในระยะยาว ครบจบในที่จะช่วยให้เงินออมของคุณเติบโตในปีนี้

เงินฝากประจำดอกเบี้ยสูงคืออะไร? ทำไมนักออมมือใหม่ควรรู้จัก

เงินฝากประจำดอกเบี้ยสูง เป็นผลิตภัณฑ์การออมเงินที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป พร้อมกับความมั่นคงและปลอดภัยในการลงทุน

จุดเด่นของเงินฝากประจำ

  • อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ประมาณ 2-4 เท่า ซึ่งในปัจจุบันบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปให้ดอกเบี้ยเพียง 0.1-0.5% ต่อปี ในขณะที่เงินฝากประจำสามารถให้ดอกเบี้ยได้ถึง 1.5-4.5% ต่อปี ทำให้ผู้ออมเงินได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
  • ความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ผู้ฝากเงินจะได้รับการคุ้มครองเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด แม้ว่าธนาคารจะประสบปัญหาก็ตาม
  • ระยะเวลาการลงทุนที่ชัดเจนและยืดหยุ่น ผู้ฝากสามารถเลือกระยะเวลาได้ตั้งแต่ 3 เดือนจนถึง 5 ปี ขึ้นอยู่กับแผนการเงินและเป้าหมายการออมของแต่ละบุคคล พร้อมทั้งสามารถวางแผนการเงินในอนาคตได้อย่างแม่นยำ

ความแตกต่างจากเงินฝากออมทรัพย์ยังไง

  • เงินฝากออมทรัพย์ มีความสะดวกในการใช้งาน สามารถถอนเงินได้ตลอดเวลาผ่าน ATM หรือ Mobile Banking แต่ข้อเสียคือได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ไม่สอดคล้องตามอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้เงินมีมูลค่าลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
  • เงินฝากประจำ ถึงแม้จะมีข้อจำกัดในการถอนเงินก่อนครบกำหนด แต่ผู้ฝากจะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอย่างชัดเจน ซึ่งเหมาะสำหรับเงินส่วนที่ไม่ต้องใช้ในระยะสั้น และต้องการให้เงินออมเติบโตอย่างมั่นคง

เมื่อเปรียบเทียบกับทางเลือกออมเงินอื่น เช่น กองทุนรวม หุ้น หรือพันธบัตร เงินฝากประจำจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงและผลตอบแทนที่แน่นอน

อัปเดตอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่ “สูง” ของปี 2568

ในปี 2568 อัตราดอกเบี้ยเงินฝากดอกเบี้ยสูงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารต่างๆ แข่งขันกันเสนออัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ

  • เงินฝากขั้นต่ำ 1,000 - 50,000 บาท (ขึ้นอยู่กับธนาคาร) โดยส่วนใหญ่ธนาคารขนาดใหญ่จะกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ 1,000-10,000 บาท ในขณะที่ธนาคารขนาดกลางและเล็กอาจต้องการเงินฝากเริ่มต้นสูงถึง 50,000 บาท เพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างฐานเงินฝากที่มั่นคง
  • ระยะเวลาฝาก 3, 6, 12, 24, 36 เดือน หรือมากกว่า การเลือกระยะเวลามีผลต่ออัตราดอกเบี้ยโดยตรง โดยทั่วไปการฝากระยะยาวจะได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า แต่ผู้ฝากต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลตอบแทนกับความยืดหยุ่นในการใช้เงิน
  • อัตราดอกเบี้ย 1.5% - 2.8% ต่อปี (ขึ้นอยู่กับธนาคาร ระยะเวลา และจำนวนเงิน) อัตราดอกเบี้ยจะแปรผันตามหลายปัจจัย เช่น นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลาง การแข่งขันในตลาด และสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม

ข้อควรระวังเรื่องอัตราดอกเบี้ยและโปรโมชัน

  • ตรวจสอบว่าอัตราดอกเบี้ยที่โฆษณาเป็นอัตราพิเศษหรือปกติ บางครั้งธนาคารจะโฆษณาอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ใช้ได้เฉพาะระยะเวลาจำกัด หรือมีเงื่อนไขการใช้บริการอื่นๆ ประกอบ ผู้ฝากควรอ่านรายละเอียดอย่างละเอียดเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
  • อ่านเงื่อนไขโปรโมชันให้ละเอียด เช่น ระยะเวลา จำนวนเงินขั้นต่ำ โปรโมชันมักมีข้อจำกัดต่างๆ เช่น เฉพาะลูกค้าใหม่ หรือลูกค้าที่มียอดเงินฝากรวมตั้งแต่จำนวนหนึ่ง การไม่เข้าใจเงื่อนไขอาจทำให้ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่คาดหวัง
  • พิจารณาค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น บางสถาบันการเงินอาจมีค่าธรรมเนียมการเปิดบัญชี ค่าธรรมเนียมการถอนก่อนกำหนด หรือค่าธรรมเนียมการต่ออายุ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อผลตอบแทนสุทธิที่ได้รับ

เงินฝากประจำแบบปลอดภาษี ออมเงินได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

เงินฝากประจำแบบปลอดภาษี ออมเงินได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

หลักการของเงินฝากประจำแบบปลอดภาษีคือ ผู้ฝากไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% จากดอกเบี้ยที่ได้รับ ทำให้ได้รับผลตอบแทนเต็มจำนวน

วิธีคำนวณดอกเบี้ย

ตัวอย่างการฝากเงิน 50,000 บาท ทุกเดือน เป็นระยะเวลา 12 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี (คำนวณโดยประมาณ)

  • เดือนที่ 1 : ฝากเงิน 50,000 = เงินฝาก 50,000 บาท x ((2.6/100)/365) x 30 วัน = ได้รับดอกเบี้ย 143.84 บาท
  • เดือนที่ 2 : ฝากเงิน 50,000 = เงินฝาก 100,000 บาท x ((2.6/100)/365) x 30 วัน = ได้รับดอกเบี้ย 287.67 บาท
  • เดือนที่ 3 : ฝากเงิน 50,000 = เงินฝาก 150,000 บาท x ((2.6/100)/365) x 30 วัน = ได้รับดอกเบี้ย 431.51 บาท

เมื่อคำนวณดอกเบี้ยจนถึงเดือนที่ 12 จะได้รับดอกเบี้ยรวม 11,219.18 บาท ซึ่งจะไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 1,682.88 บาท (คำนวณโดยประมาณ) ทำให้ได้รับดอกเบี้ยเต็มจำนวน ซึ่งเท่ากับได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 15% โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม

ข้อดีของดอกเบี้ยปลอดภาษี

  • ได้รับผลตอบแทนสูงกว่าประมาณ 15% เมื่อไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ผู้ฝากจะได้รับดอกเบี้ยเต็มจำนวนตามที่ตกลงไว้ ซึ่งเท่ากับได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นทันที 15% โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม นี่เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญเมื่อเทียบกับเงินฝากประจำทั่วไป
  • ไม่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเพิ่มเติม ลดความยุ่งยากในการทำบัญชีและยื่นภาษี ผู้ฝากไม่ต้องเก็บใบกำกับการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือคำนวณภาษีเพิ่มเติม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการบริหารจัดการภาษีส่วนบุคคล
  • เหมาะกับผู้ที่มีรายได้สูงและต้องเสียภาษีในอัตราสูง สำหรับผู้ที่อยู่ในเกณฑ์เสียภาษีส่วนบุคคลในอัตรา 20-35% การได้รับดอกเบี้ยปลอดภาษีจะช่วยประหยัดภาษีได้มากกว่าการนำดอกเบี้ยไปหักลงจากรายได้เพื่อคำนวณภาษี

ผู้ที่ควรเลือกเงินฝากประเภทนี้

  • ผู้มีรายได้เกิน 150,000 บาทต่อปี ซึ่งเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำในการเสียภาษีส่วนบุคคล การเลือกเงินฝากประจำปลอดภาษีจะช่วยให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าและลดภาระภาษีในอนาคต
  • นักลงทุนที่ต้องการความแน่นอนในผลตอบแทน เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบความเสี่ยงและต้องการทราบผลตอบแทนล่วงหน้า สามารถวางแผนการเงินระยะยาวได้อย่างมั่นใจ
  • ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงความยุ่งยากในการคิดภาษี เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใช้เวลาในการติดตาม คำนวณ และจัดการเอกสารเกี่ยวกับภาษีจากดอกเบี้ย ทำให้สามารถมุ่งเน้นไปที่การทำงานหรือกิจกรรมอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่

ข้อดี - ข้อจำกัด ของการออมเงินกับเงินฝากประจำดอกเบี้ยสูง

ข้อดี

ความเสี่ยงต่ำและมั่นคง

  • ได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากสูงสุด 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด หมายความว่าแม้ว่าธนาคารจะประสบปัญหาทางการเงินหรือเลิกกิจการ ผู้ฝากยังคงได้รับเงินคืนครบจำนวน ซึ่งเป็นหลักประกันที่แข็งแกร่งที่สุดในระบบการเงินไทย
  • อัตราดอกเบี้ยไม่ผันผวน เหมือนการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวมที่ผลตอบแทนขึ้นลงตามสภาวะตลาด เงินฝากประจำให้ความมั่นใจว่าจะได้รับดอกเบี้ยตามอัตราที่ตกลงไว้ครบถ้วนเมื่อครบกำหนด
  • เงินต้นปลอดภัย ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนรูปแบบอื่นที่อาจมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินลงทุน

ผลตอบแทนที่คาดการณ์ได้

  • ทราบผลตอบแทนแน่นอนตั้งแต่วันแรกที่ฝาก ช่วยให้สามารถวางแผนการเงินส่วนบุคคลได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการออมเพื่อซื้อบ้าน การศึกษาบุตร หรือการเกษียณ
  • สามารถวางแผนการเงินระยะยาวได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากทราบจำนวนเงินที่จะได้รับเมื่อครบกำหนดแน่นอน ทำให้สามารถคำนวณและจัดสรรงบประมาณในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อจำกัด

ข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง

  • ไม่สามารถถอนเงินก่อนครบกำหนดได้ หรือต้องเสียค่าปรับ หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินและจำเป็นต้องใช้เงิน ผู้ฝากอาจต้องเสียดอกเบี้ยส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด หรือต้องจ่ายค่าปรับเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้ได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าที่คาดหวัง
  • หากต้องการเงินเร่งด่วน อาจไม่สามารถเข้าถึงเงินได้ทันที ต่างจากเงินฝากออมทรัพย์ที่สามารถถอนได้ทันที การถอนเงินฝากประจำก่อนกำหนดมักต้องไปทำรายการที่สาขา และอาจต้องรอขั้นตอนการอนุมัติ

เปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ออมเงินอื่น

  • กองทุนรวม มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่าในระยะยาว โดยเฉพาะกองทุนรวมหุ้น แต่มีความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาดทุน อาจขาดทุนได้หากขายในช่วงที่ราคาตลาดต่ำ เหมาะกับผู้ที่มีระยะเวลาลงทุนยาวและรับความเสี่ยงได้
  • หุ้น ผลตอบแทนอาจสูงมากในระยะยาว แต่ความเสี่ยงสูงตาม ต้องมีความรู้ในการวิเคราะห์และติดตามตลาดอย่างสม่ำเสมอ เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์และเวลาในการศึกษาข้อมูล
  • พันธบัตรรัฐบาล ความปลอดภัยใกล้เคียงกับเงินฝากประจำ แต่มีสภาพคล่องดีกว่าเนื่องจากสามารถซื้อขายในตลาดรองได้ อย่างไรก็ตาม ราคาอาจผันผวนตามอัตราดอกเบี้ยในตลาด

เทคนิคเลือกบัญชีเงินฝากประจำให้เหมาะกับแต่ละเป้าหมายการเงิน

เทคนิคเลือกบัญชีเงินฝากประจำให้เหมาะกับแต่ละเป้าหมายการเงิน

การวางแผนช่วงเวลาออม

การเลือกบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงให้เหมาะสมต้องพิจารณาเป้าหมายการเงินเป็นหลัก

  • ระยะเวลา 6 เดือน เหมาะกับเงินสำรองฉุกเฉินหรือเงินที่มีแผนจะใช้ในระยะสั้น เช่น เงินสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว การซ่อมแซมบ้าน หรือค่าใช้จ่ายประจำปีที่คาดการณ์ไว้แล้ว อัตราดอกเบี้ยอาจไม่สูงมาก แต่ให้สภาพคล่องที่ดีและผลตอบแทนดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์
  • ระยะเวลา 12 เดือน เหมาะกับการออมเพื่อซื้อของใช้ในครัวเรือน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์มือสอง หรือเงินโบนัสประจำปีที่ต้องการให้เติบโต การฝากประจำ 1 ปีมักได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ดีและเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมกับการวางแผนการเงินประจำปี
  • ระยะเวลา 24 เดือน เหมาะกับการออมเพื่อเป้าหมายระยะกลาง เช่น เงินดาวน์ซื้อบ้าน การแต่งงาน หรือเงินลงทุนในธุรกิจเล็กๆ ระยะเวลา 2 ปีให้ความสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความยืดหยุ่น และมักได้รับอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ
  • ระยะเวลา 36 เดือน เหมาะกับการออมระยะยาว เช่น การเตรียมเงินเพื่อการเกษียณ เงินการศึกษาบุตร หรือการสร้างฐานการเงินที่มั่นคง อัตราดอกเบี้ยมักสูงสุดในหมวดเงินฝากประจำ แต่ต้องแน่ใจว่าไม่ต้องใช้เงินในระยะเวลาดังกล่าว

เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขรับดอกเบี้ย

  • พิจารณาอัตราดอกเบี้ยต่อปี (APR) ให้ครบถ้วน ไม่เพียงแค่ดูตัวเลขอัตราดอกเบี้ย แต่ต้องคำนวณผลตอบแทนจริงที่จะได้รับหลังหักภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบอย่างยุติธรรม
  • เช็คว่าดอกเบี้ยจ่ายรายเดือน รายไตรมาส หรือครบกำหนด การจ่ายดอกเบี้ยรายเดือนช่วยให้มีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ ในขณะที่การจ่ายครบกำหนดจะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้น
  • ดูเงื่อนไขการต่ออายุอัตโนมัติ บางสถาบันจะต่ออายุให้อัตโนมัติด้วยอัตราดอกเบี้ยปกติ ซึ่งอาจต่ำกว่าอัตราโปรโมชันเดิม ผู้ฝากควรติดตามและวางแผนล่วงหน้า

การวางแผนเปิดบัญชีมากกว่า 1 บัญชี

  • แบ่งเงินฝากเป็นหลายส่วนตามระยะเวลาที่แตกต่างกัน เช่น ฝาก 30% ในระยะ 6 เดือน 40% ในระยะ 12 เดือน และ 30% ในระยะ 24 เดือน เพื่อให้มีเงินครบกำหนดในช่วงเวลาต่างๆ กัน
  • ลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวสูงขึ้น จะมีเงินส่วนหนึ่งครบกำหนดที่สามารถนำไปฝากใหม่ในอัตราที่สูงขึ้น
  • เพิ่มความยืดหยุ่นในการเข้าถึงเงิน การมีเงินฝากครบกำหนดในช่วงเวลาต่างๆ กัน ช่วยให้มีทางเลือกในการใช้เงินมากขึ้นโดยไม่ต้องถอนก่อนกำหนด

วิธีบริหารจัดการ และเสริมวินัยออมเงินให้สำเร็จ

หลัก 50/30/20

  • 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น ครอบคลุมค่าอาหาร ค่าที่อยู่อาศัย ค่าเดินทาง ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การควบคุมส่วนนี้ให้อยู่ในกรอบ 50% จะช่วยให้มีเงินเหลือสำหรับการออมเงินและใช้จ่ายส่วนตัว
  • 30% สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ความบันเทิง การท่องเที่ยว การซื้อของที่ไม่จำเป็น การรับประทานอาหารนอกบ้าน ส่วนนี้ช่วยให้ชีวิตมีความสุขและสมดุล แต่ต้องมีวินัยในการใช้จ่าย
  • 20% สำหรับการออมเงิน (รวมเงินฝากประจำ) ในส่วนนี้ควรแบ่งเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน 5-10% และเงินออมระยะยาวในเงินฝากประจำดอกเบี้ยสูง 10-15% เพื่อสร้างฐานการเงินที่แข็งแกร่ง

วิธีจัดงบประมาณรายเดือน

  • บันทึกรายรับ-รายจ่ายทุกเดือน ใช้แอปพลิเคชันหรือสมุดบันทึกในการติดตามเงินเข้า-ออกอย่างละเอียด เพื่อให้เห็นภาพรวมการใช้จ่ายและหาจุดที่สามารถปรับปรุงได้ การบันทึกอย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างความตระหนักรู้ในการใช้เงิน
  • กำหนดจำนวนเงินที่จะฝากประจำอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถทำได้จริง เช่น ฝากประจำ 5,000 บาททุกเดือน หรือฝากเงินโบนัส 50% ทุกครั้งที่ได้รับ การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยสร้างแรงจูงใจในการออม
  • ตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว เป้าหมายระยะสั้น เช่น ออมเงิน 50,000 บาทใน 1 ปี เป้าหมายระยะยาว เช่น มีเงินออม 1 ล้านบาทใน 10 ปี การมีเป้าหมายที่หลากหลายจะช่วยให้การออมเงินไม่น่าเบื่อและมีแรงจูงใจต่อเนื่อง

การตรวจสอบรายการฝากเงินและรับดอกเบี้ย

  • ตรวจสอบยอดเงินและดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้ และไม่มีข้อผิดพลาดในระบบ การติดตามอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
  • เก็บเอกสารการฝากเงินไว้อย่างครบถ้วน ทั้งหลักฐานการฝากเงิน สัญญาเงินฝากประจำ และเอกสารการต่ออายุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานและอ้างอิงในอนาคต รวมถึงการใช้ประโยชน์ในการยื่นภาษี
  • วางแผนการต่ออายุหรือถอนเงินล่วงหน้า ติดตามวันครบกำหนดของเงินฝากแต่ละบัญชี และตัดสินใจล่วงหน้าว่าจะต่ออายุ ถอนเงิน หรือนำไปลงทุนในช่องทางอื่น การวางแผนล่วงหน้าจะช่วยให้ไม่พลาดโอกาสในการได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ดี

การเลือกเงินฝากดอกเบี้ยสูงเป็นการตัดสินใจทางการเงินที่สำคัญ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับเป้าหมายการเงินของตนเอง

ที่มา : บมจ. ธนาคารกรุงไทย
โพสต์ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์
เผยแพร่ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์

ติดตาม PR.News Thailand

ส่วนสมาชิก

Flash Sale! ลด 50% ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ พร้อมเผยแพร่ไปยังสื่อออนไลน์ในเครือของเรา เพียง 500 บาท เท่านั้น วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

ผลสลากกินเเบ่งรัฐบาล

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 ตุลาคม 68
รางวัลที่ 1 2 ตัว เลขท้าย 3 ตัว เลขหน้า 3 ตัว
876978 77 280 605 843 532
เงินรางวัล รางวัลที่ 1 : รางวัลละ 6,000,000 บาท เลขท้าย 2 ตัว : 1 รางวัลๆ ละ 2,000 บาท เลขท้าย 3 ตัว : 2 รางวัลๆ ละ 4,000 บาท เลขหน้า 3 ตัว : 2 รางวัลๆ ละ 4,000 บาท | ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล lotterythai.in.th

จองตั๋วรถทัวร์ออนไลน์

Klook.com

คำค้นแนะนำ

ข่าวประชาสัมพันธ์

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์

รับทำเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์โรงแรม

เว็บเซลเพจ

เว็บเซลเพจโรงแรม

โรงแรมนครศรีธรรมราช

นครศรีธรรมราช

รวมโรงแรมนครศรีธรรมราช

ผู้หญิง

เว็บไซต์ผู้หญิง

นิตยสารออนไลน์

โปรโมชั่น

ความงาม

แฟชั่น

สุขภาพ

ไลฟ์สไตล์

สลากกินแบ่งรัฐบาล

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

หวย

ตรวจหวย

ลอตเตอรี่

เรียงเบอร์

รวมข่าวประชาสัมพันธ์

วงล้อนำโชค

สุ่มเลขนำโชค

ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์

ท้าวเวสสุวรรณ

หวยงวดนี้

เลขเด่นนำโชค

พระพิฆเนศ

นิวส์ไวร์

newswire

ไทยนิวส์ไวร์

thainewswire

จองตั๋วรถทัวร์

จองตั๋วรถทัวร์ออนไลน์

รีสอร์ทตราด

ตราดรีสอร์ท

โรงแรมตราด

Resort Trat

Trat Resort