ข่าวเอเชีย - ไบโอ ฟาร์มา ผนึกกำลัง DCVMN เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านสาธารณสุขโลก ตอกย้ำบทบาทของอินโดนีเซียบนเวทีวัคซีนโลก

ชอบข่าวนี้?
24 ต.ค. 68 14:21

โพสต์โดย : Dataxet Infoquest Admin
IP Address : 184.22.147.12

ไบโอ ฟาร์มา ผนึกกำลัง DCVMN เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านสาธารณสุขโลก ตอกย้ำบทบาทของอินโดนีเซียบนเวทีวัคซีนโลก

ไบโอ ฟาร์มา

บันดุง อินโดนีเซีย, 22 ตุลาคม 2568 / แอนทารา-เอเชียเน็ท/ดาต้าเซ็ต

อินโดนีเซียตอกย้ำบทบาทสำคัญและต่อเนื่องในเครือข่ายผู้ผลิตวัคซีนในประเทศกำลังพัฒนา (DCVMN) ผ่านบริษัทพีที ไบโอ ฟาร์มา (เพอร์เซโร) หรือ PT Bio Farma (Persero) เพื่อมุ่งส่งเสริมการเข้าถึงวัคซีนที่ปลอดภัย มีคุณภาพสูง และราคาย่อมเยาอย่างเท่าเทียม นับตั้งแต่ก่อตั้งเครือข่าย DCVMN เมื่อปี 2543 ไบโอ ฟาร์มาถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการส่งเสริมขีดความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนและยกระดับศักยภาพด้านสาธารณสุขของประเทศกำลังพัฒนา

ความร่วมมือระหว่างไบโอ ฟาร์มากับ DCVMN เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงก่อตั้งเครือข่าย โดยในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งแรก ณ เมืองโนร์ดไวก์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อปี 2543 ไบโอ ฟาร์มา เป็น 1 ใน 10 สมาชิกผู้ก่อตั้งที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนความร่วมมือด้านวัคซีน ต่อมาในเดือนเมษายน 2544 ไบโอ ฟาร์มา ซึ่งมีทัมริน พูลเอิงกัน เป็นกรรมการผู้จัดการในขณะนั้น ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ณ เมืองบันดุง ซึ่งการประชุมครั้งนี้ได้มีการกำหนดโครงสร้างและระบบการบริหารจัดการของ DCVMN อย่างเป็นทางการ และยังเป็นการยืนยันสถานะของอินโดนีเซียในการเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความร่วมมือด้านวัคซีนของประเทศกำลังพัฒนาอีกด้วย

ชาดิค อากาสยา กรรมการผู้จัดการคนปัจจุบันของไบโอ ฟาร์มา กล่าวว่า การเข้าร่วมเครือข่าย DCVMN สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของอินโดนีเซียในการมีส่วนร่วมพัฒนาสาธารณสุขโลก ไม่ใช่เพียงเพื่อผลประโยชน์ของชาติ

“การมีส่วนร่วมของไบโอ ฟาร์มาในเครือข่าย DCVMN นับตั้งแต่ก่อตั้ง จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การเป็นผู้แทน แต่เป็นการลงมือสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมเพื่อขับเคลื่อนการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนระดับโลก เรามุ่งมั่นส่งมอบโซลูชันด้านสุขภาพที่เท่าเทียมและยั่งยืนสำหรับทุกคนผ่านความร่วมมือและนวัตกรรม” ชาดิคกล่าว

“เราเชื่อว่าพลังที่แท้จริงของอุตสาหกรรมวัคซีนในประเทศกำลังพัฒนานั้นอยู่ที่ความร่วมมือ และผ่านบทบาทเชิงรุกในเครือข่าย DCVMN เรามุ่งมั่นให้ทุกประเทศเข้าถึงวัคซีนที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และราคาเอื้อมถึง ซึ่งสะท้อนบทบาทของอินโดนีเซียต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขโลกอย่างแท้จริง”

ในปี 2547 ไบโอ ฟาร์มาได้ผนึกกำลังกับสมาชิก DCVMN รายอื่น ๆ เพื่อขยายการเข้าถึงวัคซีนรวมป้องกัน 5 โรค (DPT-HepB-Hib) ผ่านความร่วมมือด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีกับสถาบันวัคซีนแห่งเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่าบทบาทของไบโอ ฟาร์มาในเครือข่ายนั้นไม่ได้เป็นเพียงเชิงสัญลักษณ์ แต่เป็นการทำงานเชิงเทคนิคและปฏิบัติจริง

ความเชื่อมั่นจากนานาชาติต่อไบโอ ฟาร์มายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2555 อินโดนีเซียได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสามัญประจำปีเครือข่าย DCVMN ครั้งที่ 13 ณ เกาะบาหลี และมาเฮนทรา ซูฮาร์โดโน หนึ่งในกรรมการของบริษัทในขณะนั้น ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร วาระปี 2556-2557

ความเป็นผู้นำของอินโดนีเซียได้รับการยกย่องไปอีกขั้น เมื่อไบโอ ฟาร์มาได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารเครือข่าย DCVMN วาระปี 2566–2568 ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างสมาชิกเครือข่ายกับลำดับความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ระดับโลก พร้อมสะท้อนศักยภาพของอินโดนีเซียในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมวัคซีนของประเทศกำลังพัฒนา

ความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมของไบโอ ฟาร์มาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความร่วมมือ ในปี 2563 วัคซีน nOPV2 ของบริษัทกลายเป็นวัคซีนแรกของโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนใช้งานฉุกเฉิน (Emergency Use Listing) จากองค์การอนามัยโลก ช่วยให้สามารถเร่งกระจายวัคซีนได้อย่างรวดเร็วในช่วงวิกฤตด้านสาธารณสุขโลก ความสำเร็จนี้ไม่เพียงสะท้อนความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์และเทคนิคของไบโอ ฟาร์มาเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงการประสานงานและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างหลายภาคส่วนระดับนานาชาติ อาทิ ผู้สนับสนุนเงินทุน นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยทางวิชาการ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้สนับสนุนวัคซีน และผู้ผลิตวัคซีน ความร่วมมือเหล่านี้ช่วยให้การพัฒนา การอนุมัติ และการส่งมอบวัคซีน nOPV2 เป็นไปอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสำคัญต่อสาธารณสุขโลก

ความสำเร็จครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตจากประเทศกำลังพัฒนาสามารถสร้างนวัตกรรมระดับโลกได้ตามมาตรฐานสูงสุดระดับสากล ทั้งด้านความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิผลที่องค์การอนามัยโลกรับรอง นอกจากจะเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์แล้ว วัคซีน nOPV2 ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี และเสริมสร้างความเชื่อมั่นระดับโลกต่อศักยภาพของอินโดนีเซียในการมีส่วนร่วมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ความสำเร็จของไบโอ ฟาร์มาเป็นแรงบันดาลใจให้สมาชิกเครือข่าย DCVMN ทุกราย เดินหน้าเสริมศักยภาพด้านการวิจัยพัฒนา และการผลิต เพื่อบรรลุเป้าหมายการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนและความเข้มแข็งด้านสาธารณสุขระดับโลกในประเทศกำลังพัฒนา

ปัจจุบัน ไบโอ ฟาร์มามีกำลังการผลิตวัคซีนมากกว่า 3.5 พันล้านโดสต่อปี สามารถส่งมอบวัคซีนไปยังมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และมีวัคซีนจำนวน 12 ชนิดที่ได้รับการรับรองคุณสมบัติเบื้องต้นจากองค์การอนามัยโลก (WHO-PQ) นอกจากนี้ ไบโอ ฟาร์มายังทำหน้าที่เป็นศูนย์ความเป็นเลิศขององค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ด้านการพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายวัคซีน ตอกย้ำบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ของอินโดนีเซียในเวทีสาธารณสุขโลกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 26 ของเครือข่าย DCVMN ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 ตุลาคม 2568 ณ เกาะบาหลี ถือเป็นโอกาสสำคัญของอินโดนีเซียในการยืนยันภาวะผู้นำด้านการทูตเพื่อสาธารณสุขโลก ไบโอ ฟาร์มาจะใช้เวทีนี้มุ่งมั่นผลักดันนวัตกรรม ความร่วมมือ และการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนทั่วโลก เพื่อสร้างระบบสาธารณสุขโลกที่เข้มแข็งและเท่าเทียมมากขึ้น

เกี่ยวกับ DCVMN
เครือข่ายผู้ผลิตวัคซีนในประเทศกำลังพัฒนา (DCVMN) เป็นพันธมิตรระดับโลกที่ประกอบด้วยผู้ผลิตวัคซีน 46 รายจาก 17 ประเทศกำลังพัฒนา ก่อตั้งขึ้นในปี 2543 เพื่อเสริมสร้างสาธารณสุขผ่านการเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพสูงอย่างเท่าเทียม

DCVMN ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสมาชิกผ่านกิจกรรมด้านการสนับสนุนนโยบาย การพัฒนาศักยภาพ การฝึกอบรมเชิงวิชาชีพ และโครงการวิจัยร่วม เพื่อมุ่งยกระดับโครงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

DCVMN ทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO), กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF), องค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกัน (GAVI), กลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (CEPI), องค์การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการสาธารณสุข (PATH), โครงการคลินตันเพื่อการเข้าถึงบริการสุขภาพ (CHAI) และมูลนิธิเกตส์ เพื่อส่งเสริมให้ทุกประเทศมีศักยภาพในการผลิตและจัดหาวัคซีนช่วยชีวิตในราคาที่ย่อมเยา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ dcvmn.org

เกี่ยวกับ ไบโอ ฟาร์มา
พีที ไบโอ ฟาร์มา (เพอร์เซโร) หรือ PT Bio Farma (Persero) เป็นรัฐวิสาหกิจด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพของอินโดนีเซีย และเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ไบโอ ฟาร์มา ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2433 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองบันดุง ผลิตและจัดจำหน่ายวัคซีนไปยังกว่า 150 ประเทศ ตลอดจนมีบทบาทเชิงรุกในการวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพ นวัตกรรม และความมั่นคงด้านสาธารณสุขโลก

ในฐานะสมาชิกเครือข่าย DCVMN ไบโอ ฟาร์มา ยังคงเดินหน้าสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียมและยกระดับสาธารณสุขโลก รับชมข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.biofarma.co.id

ที่มา : ไบโอ ฟาร์มา
โพสต์ : บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด
เผยแพร่ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์

ติดตาม PR.News Thailand

ส่วนสมาชิก

Flash Sale! ลด 50% ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ พร้อมเผยแพร่ไปยังสื่อออนไลน์ในเครือของเรา เพียง 500 บาท เท่านั้น วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568

ผลสลากกินเเบ่งรัฐบาล

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 พฤศจิกายน 68
รางวัลที่ 1 2 ตัว เลขท้าย 3 ตัว เลขหน้า 3 ตัว
345898 87 111 690 449 328
เงินรางวัล รางวัลที่ 1 : รางวัลละ 6,000,000 บาท เลขท้าย 2 ตัว : 1 รางวัลๆ ละ 2,000 บาท เลขท้าย 3 ตัว : 2 รางวัลๆ ละ 4,000 บาท เลขหน้า 3 ตัว : 2 รางวัลๆ ละ 4,000 บาท | ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล lotterythai.in.th

จองตั๋วรถทัวร์ออนไลน์

Klook.com

คำค้นแนะนำ

ข่าวประชาสัมพันธ์

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์

รับทำเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์โรงแรม

เว็บเซลเพจ

เว็บเซลเพจโรงแรม

โรงแรมนครศรีธรรมราช

นครศรีธรรมราช

รวมโรงแรมนครศรีธรรมราช

ผู้หญิง

เว็บไซต์ผู้หญิง

นิตยสารออนไลน์

โปรโมชั่น

ความงาม

แฟชั่น

สุขภาพ

ไลฟ์สไตล์

สลากกินแบ่งรัฐบาล

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

หวย

ตรวจหวย

ลอตเตอรี่

เรียงเบอร์

รวมข่าวประชาสัมพันธ์

วงล้อนำโชค

สุ่มเลขนำโชค

ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์

ท้าวเวสสุวรรณ

หวยงวดนี้

เลขเด่นนำโชค

พระพิฆเนศ

นิวส์ไวร์

newswire

ไทยนิวส์ไวร์

thainewswire

จองตั๋วรถทัวร์

จองตั๋วรถทัวร์ออนไลน์

รีสอร์ทตราด

ตราดรีสอร์ท

โรงแรมตราด

Resort Trat

Trat Resort